
ผู้สอนหลัก
ผศ. ดร. ธนา อุดมศรีไพบูลย์
เกษตรกรส่วนใหญ่มักเผชิญกับปัญหาทางด้านสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูก เช่น ภัยธรรมชาติ ความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ ความเสี่ยงจากโรคระบาดและแมลงศัตรูพืช คุณภาพและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่เพาะปลูก เป็นต้น รวมไปจนถึงปัญหาทางด้านแรงงานที่เกษตรกรมีแนวโน้มเป็นผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นและปัญหาแรงงานข้ามชาติ นอกจากนี้ ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ความต้องการของผู้บริโภคต่อสินค้าออร์แกนิค และผักไฮโดรโปนิกส์ที่เพิ่มขึ้น ความต้องการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าผ่านการตรวจสอบย้อนกลับ เป็นต้น ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำการเกษตร ดังนั้น การนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้กับการเกษตรหรือที่เรียกกันว่า เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farmers) นั้น จะทำให้เกษตรกรสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ สามารถควบคุมปริมาณและคุณภาพผลผลิตได้ตามที่ต้องการ รวมถึงลดต้นทุนการเพาะปลูกได้ เป้าหมายของหลักสูตรนี้คือการสร้างเกษตรกรอัจฉริยะที่สามารถทำการเกษตรสมัยใหม่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อทำให้ภาคการเกษตรเริ่มมีการปรับตัวโดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงและประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น แนวคิดของการสร้างเกษตรกรอัจฉริยะในการทำการเกษตรแม่นยำสูง (Precision Agriculture หรือ Precision Farming) เป็นการทำการเกษตรให้เข้ากับสภาพพื้นที่ เน้นพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่เกษตรขนาดใหญ่ เน้นประสิทธิภาพในการเพาะปลูก ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์จนถึงกระบวนการปลูกที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจวัดทั้งเรื่องของสภาพดิน ความชื้นในดิน แร่ธาตุในดิน ความเป็นกรดด่าง สภาพปริมาณแสงธรรมชาติ รวมถึงเรื่องศัตรูพืชต่าง ๆ บางประเทศมีการควบคุมสิ่งแวดล้อมผ่านการปลูกในโรงเรือน เพื่อป้องกันศัตรูพืชและสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ได้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้นนั้น การทำการเกษตรให้เข้ากับสภาพพื้นที่ เน้นประสิทธิภาพในการเพาะปลูก ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์จนถึงกระบวนการปลูกที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจวัดทั้งเรื่องของสภาพดิน ความชื้นในดิน แร่ธาตุในดิน ความเป็นกรดด่าง สภาพปริมาณแสงธรรมชาติ รวมถึงเรื่องศัตรูพืชต่าง ๆ บางประเทศมีการควบคุมสิ่งแวดล้อมผ่านการปลูกในโรงเรือน เพื่อป้องกันศัตรูพืชและสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ได้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรของประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) และเปลี่ยนจากการทำเกษตรที่ลงมือทำมากได้ผลตอบแทนน้อย มาสู่แบบลงมือทำน้อยได้ผลตอบแทนมาก และสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ ประเด็นการวางพื้นฐานระบบรองรับการเรียนรู้โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เนื่องจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตนั้น จำเป็นต้องติดตามและควบคุมปัจจัยสำคัญให้เหมาะสมต่อการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ ตามบริบทของฟาร์มของเกษตรกรที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นจะต้องเสริมทักษะในการใช้งานเซ็นเซอร์แบบไร้สาย (Wireless sensor) ที่สามารถทำงานแบบเชื่อมโยงกันผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรืออินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) อีกทั้งยังจำเป็นต้องเสริมทักษะการติดตามและควบคุมระบบเซ็นเซอร์เกษตรอัจฉริยะ (Smart farming) ผ่านทางแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile application) แบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก ช่วยให้เกษตรกรสามารถประยุกต์ใช้ และต่อยอดทักษะและองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเกษตรอัจฉริยะในฟาร์มของตนเองได้ เพื่อให้กระบวนการพัฒนาคุณภาพและศักยภาพของผู้เข้ารับการอบรมให้เป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับนโยบายดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในโครงการสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่และกำลังคนที่มีสมรรถนะเพื่อตอบโจทย์ภาคการผลิตตามนโยบายการปฏิรูปอุดมศึกษาไทยโดยการใช้กระบวนการทางการศึกษา การเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และการเข้าถึงแหล่งผู้ประกอบการตรงจึงได้พัฒนา หลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-degree) ในเชิงอบรมถ่ายทอด “นักเทคโนโลยีสำหรับเกษตรอัจฉริยะแม่นยำ (Smart Farmers)” สำหรับฝึกอบรมเพื่อใช้งานจริง ทั้งในส่วนของทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ในเชิงหลักเศรษฐศาสตร์ เกษตรกรรม และวิศวกรรมที่เข้าใจง่ายและสอดคล้องตามบริบทของฟาร์มที่แตกต่างกัน และในส่วนการฝึกปฏิบัติกับอุปกรณ์จริง ได้แก่ ระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ และระบบติดตามและระบบควบคุมเซ็นเซอร์บนแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ที่ผ่านการวิจัยและทดสอบระบบเกษตรกรที่มีความสนใจการเกษตรอัจฉริยะ และพร้อมให้ความร่วมมือในการศึกษาดูงานแก่ผู้เข้าร่วมอบรม เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรให้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรนอกจากนี้ยังเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสอบถามข้อคิดเห็น จากผู้มีประสบการณ์ใช้งานระบบฟาร์มอัจฉริยะอย่างแท้จริง
ผศ. ดร. ธนา อุดมศรีไพบูลย์